วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

มาทำความรู้จักกับน้ำหอมกันเถอะ




ชื่อเรียกน้ำหอมแต่ละชนิด
โดยปกติแล้วน้ำหอมที่มีจำหน่ายตามท้องตลาด จะมีความเข้มข้นของส่วนผสมที่ไม่เท่ากันครับ ซึ่งน้ำหอมจะถูกแบ่งตามความเข้าข้นได้เป็น 4 ประเภท
ไม่ว่าจะเป็นร้านบอดี้ช็อป ร้านขายน้ำหอมแบรนด์เนมทั่วไป หรือแม้กระทั้งร้านน้ำหอมแบ่งขายตามตลาดนัด (น้ำหอมซีซี) ร้านค้าปลีกย่อยต่างๆ จะมีส่วนผสมไม่ต่างกัน คือจะมีเอทิล แอลกอฮอล์ (Ethyl Alcohol) (บางครั้งเรียกว่า เอทานอล (Ethanol)) ผสมอยู่ในน้ำหอมเป็นจำนวนมาก

น้ำหอมบางชนิด จะมีตัวหัวน้ำหอมผสมอยู่เพียง 4-10% เท่านั้น เองครับ แต่ส่วนที่เหลือ จะเป็นส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หรือ น้ำกลั่นถึง 90% เลยทีเดียว

ซึ่งน้ำหอมบางชนิดจะมีความเข้มข้นต่ำ บางชนิดก็มีความเข้มข้นในปริมาณที่สูง ทั้งนี้ทางผู้ผลิตเอง ทำขึ้นเพื่อให้สามารถใช้ในโอกาสที่ต่างกันออกไป
โดยส่วนใหญ่แล้วในวงการน้ำหอม เราสามารถแบ่งประเภทน้ำหอมตามความเข้มข้น เป็น 4 ประเภทด้วยกันคือ
1. Perfume
2. EDP
3. EDT
4. EDC


รายละเอียดของน้ำหอมแต่ละชนิด
1. น้ำหอมชนิด Perfume
Perfume หรือที่รู้จักกันในนาม Perfume Extract จะเป็นชนิดน้ำหอมที่มีความเข้มข้นสูงสุด โดยจะมีความเข้มข้นของหัวน้ำหอมอยู่ประมาณ 20-40% ซึ่งจะให้กลิ่นน้ำหอม ที่หอมนุ่มนวลกว่าในบรรดาน้ำหอมทั้งหมด และก็มีราคาแพงที่สุดอีกด้วย ก็เนื่องจากความเข้มข้นของหัวน้ำหอมสูงนั่นเอง

2. น้ำหอมชนิด Eau de Parfum (EDP)
 จะมีความเข้มข้นรองมาจากตัว Perfume Extract ซึ่งจะมีหัวน้ำหอมผสมอยู่ประมาณ 8-16%
 EDP น่าจะเป็นน้ำหอมที่เราคุ้นเคยมากที่สุด และสามารถพบเห็นได้ง่ายตามร้านขายน้ำหอม ทั่วไป
 เมื่อใช้น้ำหอมชนิด EDP แล้วจะให้กลิ่นที่นุ่มนวลตามชนิดของน้ำหอม และกลิ่นหลัก (Top Notes) จะหายไปหลังจากฉีดน้ำหอมแล้ว ประมาณ 4 ชั่วโมง แต่กลิ่นรอง (Base Notes) จะอยู่ได้ต่ออีกประมาณ 24 ชั่วโมง
    
ดังนั้นน้ำหอมชนิดนี้จึงเป็นน้ำหอมที่เหมาะที่สุด หากคุณสาวๆ หรือหนุ่มๆ ท่านใด ต้องการให้มีกลิ่นติดตัวไปตลอดทั้งวัน

3. น้ำหอมชนิด Eau de Toilette (EDT) 
EDT เป็นน้ำหอมที่มีความเข้มข้นรองลงมาจากตัว EDP โดยจะมีสัดส่วนของหัวน้ำหอมอยู่ประมาณ 4-8% กลิ่นหลัก (Top Notes) ของน้ำหอม จะติดได้ทนประมาณ 2-3 ชั่วโมง และกลิ่นรอง (Base Notes) จะติดตัวผู้ใช้น้ำหอมต่อไปอีก 5-10 ชั่วโมง หลังฉีด เนื่องจากช่วงที่มีกลิ่นหอมติดตัวจะอยู่ได้ไม่นาน น้ำหอมชนิดนี้จึงเหมาะสำหรับใช้ในเวลากลางคืน หรือช่วงเวลาสั้นๆ ที่ไม่ต้องออกกลางแจ้ง หรือออกงานสังสรรค์ในตอนกลางคืน

 4. น้ำหอมชนิด Eau de Cologne (EDC)
 เป็นชนิดที่มีความเข้มข้นต่ำที่สุด น้ำหอม EDC มีหัวน้ำหอมผสมอยู่เพียง 2-4%
 น้ำหอมชนิดนี้จะค่อนข้างหายากตามท้องตลาด และกลิ่นของ EDC ก็ติดอยู่ได้ไม่นาน จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมใช้เท่าใดนัก

วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

Le mont saint michel





Le mont saint michel is an island commune inNormandy, France. It is located about one kilometre (0.6 miles) off the country's northwestern coast, at the mouth of the Couesnon River near Avranches and is 100 hectares (247 acres) in size. As of 2009, the island has a population of 44.
The island has held strategic fortifications since ancient times and since the 8th century AD has been the seat of the monastery from which it draws its name. The structural composition of the town exemplifies the feudal society that constructed it: on top, God, the abbey and monastery; below, the great halls then stores and housing; and at the bottom, outside the walls, houses for fishermen and farmers.
The commune's position — on an island just 600 metres from land — made it accessible at low tide to the many pilgrims to its abbey, but defensible as an incoming tide stranded, drove off, or drowned would-be assailants. The Mont remained unconquered during the Hundred Years' War; a small garrison fended off a full attack by the English in 1433. The reverse benefits of its natural defence were not lost on Louis XI, who turned the Mont into a prison. Thereafter the abbey began to be used more regularly as a jail during the Ancien Régime.
One of France's most recognizable landmarks, visited by more than 3 million people each year, Mont Saint-Michel and its bay are on the UNESCO list of World Heritage Sites. Over 60 buildings within the commune are protected in France as monuments historiques.

มง-แซ็ง-มีแชล (ฝรั่งเศส: Le Mont-Saint-Michel) คือวิหารที่ตั้งอยู่บนเกาะโดดเดี่ยวกลางทะเลชายฝั่งตะวันตก บริเวณจังหวัดม็องช์ แคว้นบัส-นอร์ม็องดีของประเทศฝรั่งเศส ได้รับประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2522 ภายใต้ชื่อ มง-แซ็ง-มีแชลและอ่าว
ในปีหนึ่งจะมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมเยือนมง-แซ็ง-มีแชลกว่า 3 ล้าน 2 แสนคน ซึ่งทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอันดับที่ 3 ของประเทศฝรั่งเศสรองลงมาจากหอไอเฟลและพระราชวังแวร์ซาย
ตัวเกาะอันเป็นที่ตั้งของวิหารนั้นเป็นหินแกรนิต โดยมีเส้นรอบวงเกาะประมาณ 960 เมตร และสูง 92 เมตร แล้วถ้าบวกกับความสูงของตัววิหารนั้นแล้วก็จะมีความสูงถึง 155 แมตร ถือเป็นปราการธรรมชาติตั้งแต่สมัยยุคกลาง โดยตั้งชื่อตามวิหารที่ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขานั่นเอง บนยอดวิหารเป็นรูปปั้นทองของอัครทูตสวรรค์มีคาเอล (นักบุญมิคาเอล) สร้างโดยเอมานูแอล เฟรมีเย (Emmanuel Frémiet)
ในปัจจุบัน มีประชากรอยู่อาศัยบนเกาะ 44 คน จากสถิติ ณ ปีค.ศ.2009




วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

17 โลโก้สินค้าดัง ที่ซ่อนความหมายแฝงอย่างแยบยล



1. VAIO 
ยี่ห้อโน้ตบุ๊กที่โดดเด่นด้านดีไซน์จากโซนี่ เมื่อมองดูโลโก้ดูแวบแรกคุณก็จะอ่านคำว่า VAIO ได้ในทันที แต่ถ้าสังเกตดูดี ๆ ก็จะพบว่ามันเป็นโลโก้ที่ผสมผสานความเป็นอนาล็อกและดิจิตอลเข้าด้วยกัน เมื่อ VA แทนการส่งสัญญาณคลื่นแบบระบบอนาล็อก ส่วน IO นั้นก็แทนเลข 1 0 ซึ่งเป็นไบนารี่โค้ดที่ใช้กันในเทคโนโลยีดิจิตอลนั่นเอง

2. Baskin Robbins
โลโก้ของแบรนด์ไอศกรีมแสนอร่อย Baskin Robbins แอบเสนอจำนวนรสชาติที่มีออกวางขายด้วยการใช้สีชมพูที่บางส่วนของตัวอักษร B และ R มองดูแล้วก็เป็นตัวเลข 31 เท่ากับว่าไอศกรีมเจ้านี้มีรสชาติหลากหลายให้เลือกชิมถึง 31 รสชาติไงล่ะ 


3. Formula 1
ลองสังเกตดูดี ๆ กับสัญลักษณ์การแข่งขันรถซิ่ง ฟอร์มูล่า 1 ระหว่างตัว F และสัญลักษณ์แทนความเร็วสีแดง คุณจะมองเห็นเลข 1 อยู่ด้วย เพื่อแทนคำว่า F1 นั่นเอง

4. Northwest Airlines
โลโก้ของสายการบิน นอร์ธเวสต์ แอร์ไลน์ส ไม่เพียงแต่จะแฝง ตัว W และ N ไว้ด้วยกันเท่านั้น แต่รูปสามเหลี่ยมในวงกลม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตัวอักษร W ที่ถูกแยกออกมา ยังทำหน้าที่เหมือนศรของเข็มทิศที่ชี้ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนืออีกด้วย 

5. Tostitos
 ขนมอบกรอบแผ่นตอร์ตีญ่ายี่ห้อ Tostitos แฝงสัญลักษณ์น่ารัก ๆ ไว้ที่ตัว T ตรงกลางคำ มองแล้วเหมือนเพื่อนสองคนกำลังแบ่งแผ่นแป้งตอร์ตีญ่าจิ้มซัลซ่ากินกันอยู่เลย

6. Elefont
ชุดตัวอักษร Elefont ออกแบบโลโก้มาเรียบแต่น่ารัก ลองมองดูตัวสัญลักษณ์ที่ออกแบบให้ดูคล้ายตัวอักษร e ดูสิ ข้างในนั้นมีงวงช้างซึ่งเป็นจุดเด่นของฟอนต์ชุดนี้ด้วยนะ 

7. Hope for African Children Initiative
โลโก้ของหน่วยงานเพื่อเด็ก ๆ ในแอฟริกา Hope for African Children Initiative เมื่อมองแวบแรกคุณจะเป็นแผนที่ทวีปแอฟริกาสีขาวอยู่ตรงกลาง และเมื่อมองอีกครั้งคุณก็จะเห็นว่าพื้นที่สีส้มข้าง ๆ เป็นรูปเด็กและผู้ใหญ่ยืนหันหน้าเข้าหากัน บ่งบอกถึงจุดประสงค์ในการทำงานของหน่วยงานนี้นั่นเอง 



8. Toblerone 
 ขนมช็อกโกแลตผสมนูกัตน้ำผึ้งยอดฮิตอย่าง Toblerone ก็แอบบอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของแบรนด์ไว้ในโลโก้ของตัวเอง ด้วยรูปหมีเป็นเงาสีขาวอยู่กลางภูเขารูปสามเหลี่ยม เพราะ Toblerone มีต้นกำเนิดมาจากเมืองเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่ซึ่งมีหมีเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนั่นเอง 

9. Hartford Whalers
โลโก้ของทีมนักกีฬาฮอคกี้ Hartford Whalers จากรัฐคอนเนคติกัต สหรัฐฯ ออกแบบมาเปรี้ยงเดียวสื่อความหมายครบ ทั้งส่วนส่วนสีน้ำเงินแทนหางปลาวาฬ ส่วนสีขาวแทนตัวอักษร H และส่วนสีเขียวแทนตัวอักษร W 

10. Goodwill  
Goodwill Industries International Inc. เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรเพื่อช่วยฝึกทักษะในการทำงานให้แก่ผู้พิการ โลโก้ของ Goodwill ที่ใช้อักษร g ตัวพิมพ์เล็ก ไม่เพียงเป็นสัญลักษณ์แทนตัวอักษรแรกชื่อองค์กรแล้ว ยังสามารถมองเป็นใบหน้าครึ่งซีกของคนที่กำลังยิ้มอยู่ได้ด้วย ยิ้มสวยแบบนี้สมกับที่มี goodwill (ความมีมิตรไมตรี) จริง ๆ เลย

11. Spartan Golf Club
สโมสรนักกอล์ฟ Spartan Golf Club ออกแบบโลโก้ได้อย่างชาญฉลาด สื่อความสองอย่างครบถ้วนในรูปเดียว เมื่อมองจากมุมหนึ่งเห็นเป็นรูปนักกอล์ฟกำลังวาดวงสวิง ส่วนจากอีกมุมก็เป็นรูปหมวกนักรบของชาวสปาตันนั่นไง

12. Unilever 
เป็นที่ทราบกันดีว่า ยูนิลีเวอร์เป็นผู้ผลิตสินค้าทั้งอุปโภคและบริโภคนานาชนิดจนแทบจะเอ่ยชื่อไม่หมด ฉะนั้น Unilever เลยจาระไนสินค้าของตัวเองด้วยสัญลักษณ์แทนสินค้าต่าง ๆ ประกอบเข้าเป็นตัว U ของโลโก้แบรนด์แทน

13. Amazon
 เว็บซื้อขายสินค้าออนไลน์ยอดฮิตอย่างอะเมซอน ต้องการสื่อว่าตนมีสินค้าให้เลือกสรรทุกสิ่ง ชนิดที่ภาษาบ้านเราคงต้องใช้คำว่า สากเบือยันเรือรบ ก็เลยลากลูกศรสีส้ม จากตัว a ไปตัว z เพื่อบอกว่ามีทุกสิ่งให้เลือกสรรจริง ๆ นะ

14. Sun Microsystems
 บริษัทเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์รายอื่น ๆ อาจมีโลโก้ที่เรียบง่ายและดูน่าเบื่อ แต่สิ่งนี้ไม่เกิดขึ้นกับโลโก้ของ Sun Microsystems ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ สารกึ่งตัวนำ และซอฟต์แวร์รายใหญ่ของโลก เพราะสัญลักษณ์รูปเพชรนี้ สามารถอ่านได้ว่า SUN เสมอ ไม่ว่าจะมองมุมหรือทิศทางใด ๆ ก็ตาม 

15. Wendy’s
ร้านฟาสต์ฟู้ด Wendy’s มีโลโก้แสนน่ารักเป็นเด็กผู้หญิงผมแดงยิ้มหวาน และถ้าคุณมองที่คอเสื้อของหนูเวนดี้ดี ๆ ล่ะก็ จะเห็นคำว่า MOM ด้วยนะ เผื่อว่าครั้งหน้าที่คุณคิดถึงอาหารที่แม่ทำ จะได้คิดถึง Wendy’s ยังไงล่ะ 

16. The Bronx Zoo
โลโก้ของสวนสัตว์ The Bronx ซึ่งตั้งอยู่ในย่านบรองซ์ของมหานครนิวยอร์กที่แสนวุ่นวาย เป็นรูปยีราฟขายาว เมื่อมองดูที่ขาของเจ้ายีราฟคุณก็จะได้เป็นว่ามีตึกรามสูงเสียดฟ้าตั้งตระหง่านอยู่ สื่อได้ชัดเจนตรงตัวว่ามีสวนสัตว์อยู่ในเมืองใหญ่แห่งนี้ด้วยนะ 

17. Coca Cola
โลโก้ของผู้ผลิตน้ำดำเจ้ายักษ์อย่างโคคา-โคลา ดูแล้วไม่น่าซ่อนความหมายแฝงพิเศษอะไรเอาไว้ แต่ลองจ้องที่ o ในคำว่า Cola ดูดี ๆ สิ คุณจะเห็นว่าเส้นสายลายของมันไปละม้ายคล้ายคลึงกับ ธงชาติของเดนมาร์ก ประเทศซึ่งได้ชื่อว่าผู้คนมีความสุขที่สุดในโลกจริง ๆ ต้องบอกไว้ก่อนว่าแรกเริ่มเดิมทีโคคา-โคลา ก็ไม่ได้ตั้งใจออกแบบให้มันเหมือนลายธงชาติแต่อย่างใด แต่เมื่อไหน ๆ หลายคนก็บอกว่าคล้าย โคค-โคลา เลยหยิบเอาความเหมือนนี้มาทำมาร์เก็ตติ้งสตัทน์ โปรโมทเครื่องดื่มของตัวเองที่สนามบินในเดนมาร์กซะเลย เปลี่ยนความบังเอิญเป็นโอกาสทองจริง ๆ 

โลโก้สายการบินต่างๆ


ภาษาเยอรมันเบื้องต้น




สวัสดีตอนเช้า : Guten morgen กูทเท่น มอ เกน
สวัสดี (ใช้ตอนกลางวัน) : Guten tag : กูทเท่น ท๊าค
สวัสดี (ใช้ตอนเย็นและค่ำ) : Guten abend : กูทเท่น อาเบ่น
ราตรีสวัสดิ์ : Gute nacht : กูทเท่อะ น๊าค
แล้วค่อยพบกัน : Auf wiedersehen : เอ๊า วีเดอะ เซน
ขอบคุณ : Danke : ดังเค่อะ
ขอบคุณมาก : Vielen dank : วีเลน ดัง
ตกลง : Alles klar : อัลเลส คลา
ไม่เป็นไร : Schon gut : เชิน กุ๊ท
ใช่/ได้ : ja (หยา)
ไม่ใช่/ไม่ได้/เปล่า : nein : นาย์
โปรด/กรุณา : Bitte : บิทเถ่อะ
เท่าไร : wie viele? : วีฟีล?
นานเท่าไร : wie lange? : วีลั๊ง
ขอโทษ : entschuldigung : เอน ชู๊ล ดิ กุง
ขอตัวสักประเดี๋ยว : entschuldigen sie mich bitte einen moment
ไม่เป็นไร/ด้วยความยินดี : bitte schoen : บิทเถอะ เชิน
ขอโทษฉันฟังไม่ทัน : es tut mir leid, dass ich sie nicht erreichen konnte : เอส ทุ๊ส เมีย ไลด์, ดาส อิค ซี นิค
คุณพูดภาษาอังกฤษได้ไหม : sprechen sie Englisch? : สะเปรเซ่น ซี อิงลิช?
สบายดีหรือ : wie geht es ihnen? : วี เกท เอส อีเน้น?
ฉันแต่งงานแล้ว : ich bin verheiratet. : อิค บิน แฟ ไฮ รา เถ่ท
ฉันโสด : ich bin nicht verheiratet. : อิค บิน นิค แฟ ไฮ รา เถ่ท
ขอทราบชื่อคุณได้ไหม : wie heissen sie? : วี ไฮ เซ่น ซี?